กรมประมง แจ้งให้ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำฯ ยื่นคำขอรับใบอนุญาตภายใน 27 เม.ย.- 11 พ.ค.59


 

นายสุรพล จารุพงศ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 เม.ย.59 นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง ได้ลงนามในประกาศกรมประมง เรื่อง กำหนดให้ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินมายื่นคำขอรับใบอนุญาต พ.ศ.2559 โดยให้ผู้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอยู่ก่อน วันที่ 14 พ.ย.58 (วันที่พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 มีผลบังคับ) มาติดต่อสำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพฯ กรมประมง, สำนักงานประมงจังหวัด, สำนักงานประมงอำเภอ, ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด, ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง, ศูนย์หรือหน่วยบริหารจัดการด้านการประมง ในเขตพื้นที่ที่ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อยื่นคำขอตามแบบแสดงความประสงค์ขอรับใบอนุญาตให้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และหน่วยงานกรมประมงจะออกใบรับคำขอให้ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำใช้ เพื่อเป็นหลักฐานเบื้องต้นในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำสาธารณสมบัติจนกว่าจะได้รับใบอนุญาต

 

ทั้งนี้ ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำฯ สามารถมายื่นคำขอรับใบอนุญาต ได้ระหว่างวันที่ 27 เม.ย. ถึง 11 พ.ค.59 ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต มีบทลงโทษ คือ ปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท และปรับวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดระยะเวลาที่มีการฝ่าฝืน

 

โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การออกประกาศครั้งนี้ เป็นมาตรการเบื้องต้น เพื่อไม่ให้ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำฯ มีความผิดในระหว่างที่กรมประมงกำลังเร่งดำเนินการตามบทบัญญัติของพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ที่มีเป้าหมายให้มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างสมดุลและยั่งยืน รวมทั้ง การเพาะเลี้ยงฯ ในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติฯ ซึ่งหมายถึงที่จับสัตว์น้ำที่ไม่ใช่เป็นกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคล

 

นอกจากนี้ พระราชกำหนดยังมีเจตนารมณ์ให้ประชาชนหรือชุมชนประมงท้องถิ่น เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการด้วย ดังนั้น คำขอรับใบอนุญาตที่ผู้เพาะเลี้ยงฯ มายื่นไว้ จะนำไปพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการประมงประจำจังหวัด เพื่อดำเนินการกำหนดพื้นที่ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอนุญาตตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดต่อไป โดยระหว่างการพิจารณานี้ ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่สาธารณสมบัติฯ ที่มายื่นคำขอรับใบอนุญาตไว้ในช่วงเวลาที่กำหนดจะยังคงได้รับอนุญาตเบื้องต้นให้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำต่อไปจนกว่าผลการพิจารณาจะเสร็จสิ้น โดยไม่มีความผิด

 

โฆษกกระทรวงเกษตรฯ ย้ำว่า ใบรับคำขอแบบแสดงความประสงค์ขอรับใบอนุญาตให้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติ ที่หน่วยงานกรมประมงออกให้ชั่วคราวนี้ ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่ยื่นคำขอรับใบอนุญาตดังกล่าวได้รับการอนุญาตตามกฎหมายแล้ว เพราะยังต้องมีการพิจารณากำหนดพื้นที่ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอนุญาตตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดต่อไป และเมื่อมีการกำหนดพื้นที่และแนวทางสำหรับการขอรับใบอนุญาตและการพิจารณาอนุญาตเพื่อให้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินเรียบร้อยแล้ว กรมประมงจะประกาศขอให้มายื่นคำขอรับใบอนุญาตตามแบบและขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดต่อไปอีกครั้งหนึ่ง

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)