19 สิงหาคม 2568
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า การส่งออกไข่ของบราซิลในเดือนกรกฎาคม ทั้งไข่สดและไข่แปรรูปพุ่งขึ้นเกือบ 305% คิดเป็นปริมาณกว่า 5,259 เมตริกตัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 สะท้อนถึงความต้องการที่เพิ่มสูงจากสหรัฐฯ หลัง เผชิญการระบาดของโรคไข้หวัดนกที่ส่งผลต่อปริมาณผลผลิตในประเทศ อ้างอิงจากข้อมูลโดยสมาคมผู้ผลิตโปรตีนจากสัตว์แห่งบราซิล (The Brazilian Association of Animal Protein)
สหรัฐฯ หันมานำเข้าไข่จากบราซิลเพื่อลดผลกระทบจากภาวะขาดแคลนในประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาไข่และอัตราเงินเฟ้อในประเทศเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าบราซิลรวม 50% ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีผล ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้าเกษตรบางรายการ รวมถึงไข่
ด้าน ABPA เผยว่า ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 สหรัฐฯ เป็นประเทศผู้นำเข้าไข่หลักของบราซิล โดยส่งออกกว่า 18,976 ตัน เพิ่มขึ้นถึง 1,419% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 หรือคิดเป็นมูลค่าการส่งออกเกือบ 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกัน แม้สหรัฐฯ มีความต้องการนำเข้าไข่สูง แต่การเก็บภาษีนำเข้าสินค้าบราซิล เช่น กาแฟ เนื้อวัว และไข่ อาจกระทบต่อการค้า และทางสมาคมยังไม่สามารถประเมินผลกระทบได้อย่างชัดเจน
นอกจากสหรัฐฯ ประเทศผู้นำเข้าไข่ไก่จากบราซิลรายสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ ชิลี ญี่ปุ่น และเม็กซิโก ทั้งนี้ยังต้องจับตาต่อไปว่ามาตรการภาษีจะส่งผลอย่างไรต่อทิศทางการค้าระหว่างสองประเทศในระยะยาว
ที่มา: Reuters สรุปโดย : มกอช.