ข่าวสารและกิจกรรม

9 กันยายน 2568

    1 สิงหาคม 2568 รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) บรูก โรลลินส์ (Brooke L. Rollins) ประกาศเปิดรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณะ ต่อแผนการปรับโครงสร้างของ USDA อ้างอิง Secretary’s Memorandum ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นทาง reorganization@usda.gov ถึงวันที่ 30 กันยายน 2568

    แผนนี้มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ USDA จัดขนาดองค์กรใหม่ให้พอดีกับทรัพยากร ลดขั้นตอนการบริหารที่ซ้ำซ้อนและย้ายกำลังคนไปใกล้กับผู้บริการ

ประเด็นสำคัญ

1. ปรับโครงสร้างบุคลากรให้สอดคล้องกับงบประมาณ

   โดยส่วนใหญ่ใช้มาตรการเกษียณอายุแบบเลื่อนกำหนด (Deferred Retirement Program : DRP) ในปัจจุบันมีพนักงานกว่า 15,364 ราย ที่เข้าร่วมการเลื่อนกำหนดลาออกโดยสมัครใจ 

2. ย้ายสำนักงานออกจากเขตมหานครวอชิงตัน (National Capital Region : NCR)

        ตั้งเป้าให้เหลือพนักงานในเขตวอชิงตันไม่เกิน 2,000 คน จากราว 4,600 คน โดย USDA จะย้ายสำนักงานออกไปยังฮับภูมิภาค 5 แห่ง ได้แก่ เมืองราลี (Raleigh) รัฐแคโรไลนา แคนซัสซิตี (Kansas City) รัฐมิสซูรี เมืองอินเดียแนโพลิส (Indianapolis) รัฐอินเดียนา เมืองฟอร์ตคอลลินส์ (Fort Collins) รัฐโคโลราโด และซอลต์เลกซิตี (Salt Lake City) รัฐยูทาห์

        โดย USDA จะยังรักษาสำนักงานสำคัญบางแห่งใน NCR ไว้ เช่น Whitten Building, Yates Building, National Agricultural Library 

3. ลดขั้นตอนการบริหารและความซ้ำซ้อน

• กรมวิจัยเกษตร (Agriculture Research Service : ARS) จะยุบสำนักงานเขต โดยจะดำเนินงานภายใต้สำนักงานโครงการแห่งชาติ (Office of National Programs)
• กรมสถิติการเกษตรแห่งชาติ (National Agricultural Statistics Service : NASS) จะรวมสำนักงานภูมิภาคทั้ง 12 แห่ง เข้ากับฮับภูมิภาคทั้ง 5 แห่งของ USDA
• กรมอาหารและโภชนาการ (Food and Nutrition Service) จะลดจำนวนภูมิภาคจาก 7 เป็น 5 สอดคล้องกับฮับภูมิภาคทั้ง 5 แห่งของ USDA ภายในเวลา 2 ปี
• กรมป่าไม้ (Forest Service) จะยุติการดำเนินงานของสำนักงานระดับภูมิภาคทั้ง 9 แห่งภายในปี 2569 แต่จะยังคงมีสำนักงานแบบลดขนาดในจูโน (Juneau) รัฐอลาสก้า และศูนย์บริการตะวันออกที่เอเธนส์ (Athens) รัฐจอร์เจีย นอกจากนี้จะรวมสถานีวิจัยไว้ที่ฟอร์ตคอลลินส์ รัฐโคโลราโด และคง Fire Sciences Lab/Forest Products Lab ไว้
• กรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (Natural Resources Conservation Service : NRCS) จะปรับโครงสร้างระดับภูมิภาคให้สอดคล้องกับฮับภูมิภาคทั้ง 5 แห่ง
• กรมการตรวจสอบสุขภาพสัตว์และพืช (Animal and Plant Health Inspection Service : APHIS) ซึ่งอยู่ในทำเลฮับอยู่แล้ว จะยังคงดำเนินงานต่อไป

4. ควบรวมงานสนับสนุน

งานสนับสนุนต่าง ๆ จะถูกรวมเข้าด้วยกันตามสมควร เพื่อลดความซ้ำซ้อน อาทิ

• งานด้านสิทธิพลเมือง 
• กฎหมายด้านการเข้าถึงข้อมูล
• งานด้านกฎหมาย 
• การสื่อสารและกิจการสาธารณะ
• งานด้านงบประมาณและการเงิน
• เทคโนโลยีสารสนเทศ
• หน้าที่ด้านความสัมพันธ์ระหว่างชนเผ่าในพื้นที่

สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.usda.gov/sites/default/files/documents/sm-1078-015.pdf

ชนิดสินค้า : –

ประเภทของข่าว : กฎระเบียบของประเทศคู่ค้า

ที่มา : USDA